วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประวัติวง likin park

ประวัติวง likin park

ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) ศิลปินจากลอสแองเจลลิสกลายเป็นวงดนตรี "นูเมทัล" (Nu-Metal)

ระดับแนวหน้าของโลกไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยบทเพลงน่าสนใจ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของดนตรี เมทัล, ฮิพฮ็อพ, อีเลคโทรนิค, อินดัสเตรียล และยังคงมีกลิ่นไอของความเป็นป๊อปอยู่ด้วย โดยทั้งหมดมีที่มาจาก การที่ ไมค์ ชิโนดะ Mike Shinoda (Emcee, Vocal) ไปชมคอนเสิร์ตของวงแอนแทร็กซ์ (Anthrax) และ พับลิก อีเนมี่ (Public Enemy) ในช่วง พ.ศ. 2532 - 2533 และการแสดงในช่วงที่แฟนเพลงเรียกร้องให้ขึ้นเวทีอีกครั้ง หรือช่วงอังกอร์ของคอนเสิร์ต ในครั้งนั้น ทั้ง 2 วง ลุกขึ้นมาแสดงดนตรีร่วมกันในบทเพลง บริงก์ ดา น้อยซ์ (Bring Da Noise) ซึ่งเป็นการจุด ประกายให้ ไมค์ อยากทำงานเพลงในทิศทางนั้น

ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) จึงเริ่มต้นจาก ไมค์ ชิโนดะ (Mike Shinoda: Emcee, Vocal) หนุ่มน้อยผู้คลั่งไคล้ในวัฒนธรรมดนตรีฮิพฮ็อพ กับ แบรด เดลสัน (Brad Delson: Guitar) มือกีตาร์สมัครเล่น ทั้ง 2 หนุ่มเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เกรด 7 ( ประมาณ 13 ปี ) โดยในช่วงแรก ไมค์ (Mike) รับหน้าที่ทำบีทให้วงฮิพฮ็อพ หลังจากนั้นจึงได้พบกับ ร็อบ บอร์ดอน (Rob Bourdon: Drums) มือกลอง ณ โรงเรียนใกล้ๆ ในแถบซาน เฟอร์นานโด้ แวลลีย์ (San Fernando Valley) ส่วน โจ ฮาห์น (Joseph Hahn: DJ) ผู้รู้จักกับ ไมค์ (Mike) ขณะศึกษาที่ อาร์ต เซ็นเตอร์ คอลเลจ (Art Center College) ใน พาซาดีนา (Pasadena Art school) ตามมาเป็นหนึ่งในสมาชิก และร่วมตั้งวงดนตรีชื่อ ซีโร่ (Xero) ใน พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดการแสดงเล็กๆ สร้างความครื้นเครงและมันส์อย่างสุดๆ ในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน
เมื่อ ซีโร่ (Xero) มีโอกาสได้ไปแสดงดนตรีที่ วิสกี้ อะโกโก้ ( Whisky A Go-Go ) คลับดังของแอลเอ และด้วยฝีมือการแสดงอันโดดเด่น จึงเป็นที่ถูกใจ เจฟฟ์ บลู (Jeff Blue) แห่ง ซอมบ้า มิวสิค พับลิชชิ่ง ( Zomba Music Publishing) และได้เซ็นสัญญาในที่สุด ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สำคัญและผลักดันให้ ซีโร่ (Xero) มีโอกาสในวงการดนตรีมากขึ้น เนื่องจาก เจฟฟ์ (Jeff) มีส่วนผลักดันให้ผลงานเพลงตัวอย่างของ ซีโร่ (Xero) เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงการเพลงมากขึ้น

ต่อมา ซีโร่ (Xero) ได้เซ็นสัญญากับ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Brothers) อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากนั้นไม่นาน เจฟฟ์ (Jeff) ย้ายตามไปทำงานร่วมกันโดยดำรงตำแหน่ง เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ (Executive Producer) ด้วย ขณะนั้น ซีโร่ (Xero) ต้องการสมาชิกเพิ่มในตำแหน่ง นักร้องนำ เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington: second vocal) หนุ่มจากอริโซน่าจึงเข้ามาเป็นสมาชิกคนต่อไปในฐานะนักร้องนำ โดย เชสเตอร์ (Chester) ได้รับเทปตัวอย่างที่ ซีโร่ (Xero) ทำขึ้นจากสตูดิโอเล็กๆ ในห้องนอนของ ไมค์ (Mike)

นอกจากนี้ทั้ง เชสเตอร์ (Chester) และ ไมค์ (Mike) รู้จักกันผ่านทางสำนักทนาย ไมเนียท เฟลพส์ แอนด์ เฟลพส์ (Miniet Phelps and Phelps) ที่ทั้งคู่ใช้บริการ เชสเตอร์ (Chester) สนใจที่จะร่วมงานกับ ซีโร่ (Xero) มาก จนถึงกับแอบหนีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 23 ปีของตนไปอย่างหน้าตาเฉย เพื่อรีบไปบันทึกเสียงร้องของตนลงเทปตัวอย่างกลางดึก จากนั้นได้โทรศัพท์เปิดเทปตัวอย่างให้กับทางวงฟัง ซึ่งทุก
คนชอบมากจึงรับ เชสเตอร์ (Chester) เป็นสมาชิกใหม่ทันที

จากนั้นสมาชิก ซีโร่ (Xero) ทั้งหมดตกลงใจเปลี่ยนชื่อวงเป็น ไฮบริด ธีโอรี่ (Hybrid Theory) แต่บังเอิญไปซ้ำกับชื่อวงดนตรีของศิลปินกลุ่มอื่น จนในที่สุดจำต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็นวง ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) ซึ่งเป็นชื่อที่แผลงตัวสะกดมาจาก ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) ซึ่งมีที่มาที่ไปจากการมองการณ์ไกลไปถึงการสร้างเว็บไซต์ประจำวง เนื่องจากมีการจดทะเบียนซื้อขายชื่อโดเมน ลินคอล์นพาร์ค.คอม (lincolnpark.com) ไปเรียบร้อย ก่อนที่ทางวงจะไปขึ้นทะเบียนวงดนตรีของพวกตน และหากยังคงต้องการใช้ชื่อนั้น ก็ต้องเตรียมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลแน่นอน

นอกจากนี้ในสหรัฐอเมริกามีสวนสาธารณะชื่อ ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) อยู่หลายแห่ง ดังนั้นหากไปเปิดการแสดงดนตรีที่ใดก็ตาม จะกลายเป็นเหมือนกับวงดนตรีท้องถิ่นทั่วไป ที่สำคัญคือทุกคนชอบชื่อ ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) และยังเป็นสถานที่ที่ เชสเตอร์ (Chester) ขับรถผ่านภายหลังจากซ้อมดนตรีเสร็จเป็นประจำ ลินคอล์น พาร์ค (Lincoln Park) เป็นสถานที่แห่งหนึ่งของชนชั้นกลาง และ คนจรจัดของเมืองซานต้า โมนิก้า (Santa Monica)

ต่อมา ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) ได้ร่วมงานกับ โปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง ดอน กิลมอร์ (Don Gilmore) ผู้เคยร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพิร์ล แจม (Pearl Jam ) , เอเพ็กซ์ ธีโอรี่ (Apex Theory) , ชูการ์ เรย์ (Sugar Ray) และในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ออกผลงานชุดแรกของ ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) จะใช้ชื่ออะไรไปไม่ได้นอกจากชื่อที่ยังคาใจทุกคนอยู่ นั่นก็คือ ไฮบริด ธีโอรี่ [Hybrid Theory] ทุกคนยอมรับว่าคือ วลีที่สรุปจุดมุ่งหมายของวงได้ดีที่สุด และต้องมีการใสวงเล็บเพิ่มลงไปด้วย
ไฮบริด ธีโอรี่ [Hybrid Theory] ของวงดนตรีหน้าใหม่วงนี้ ประกอบไปด้วยบทเพลงเยี่ยมยอดมากมาย ที่สามารถทะยานเข้าสู่ ท็อป 20 ของบิลบอร์ด (Billboard Top 20) ได้สัปดาห์แรก บทเพลง วัน สเต็ป คโลสเซอร์ (One Step Closer) โดนใจนักจัดรายการวิทยุทั่วโลกไปเต็มๆ รวมทั้ง ครอวลิ่งก์ (Crawling) และ อิน ดิ เอ็นด์ (In the End) ผลงานชุดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานคุณภาพที่สื่อผสานพลังแห่งการเลือกสรรดนตรี ลงตัวที่สุดของยุค !!

ช่วงนั้น แบรด (Brad) จบระดับไฮสกูล และเข้าศึกษาต่อที่ ยูซีแอลเอ (UCLA) และเป็นเพื่อนร่วมห้องกับ ฟีนิกซ์ (Pheonix) สมาชิกรุ่นก่อตั้งวงในประมาณปี พ.ศ. 2544 จึงชักชวนให้กลับเข้าร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง ในฐานะสมาชิกคนที่ 6 ของ ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) (แต่ในปกผลงานชุด ไฮบริด ธีโอรี่ [Hybrid Theory] ลงเครดิตเพียงแค่ 5 คน เท่านั้น)

ต่อมา ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) ได้รับรางวัล (The favor of MTV's pop-oriented TRL crowd) และภายในปี 2544 ออกแสดงทัวร์คอนเสิร์ตทั้งสิ้น 324 คอนเสิร์ต รวมไปถึง การแสดงในเทศกาลดนตรี แฟมิลี่ แวลูส์ ( Family Values ) อ็อซเฟสท์ ( Ozzfest ) และ โปรเจ็คท์ รีโวลูชั่น ( Projekt Revolution ) ถูกเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลแกรมมี่ 3 รางวัล ในสาขา ผลงานเพลงร็อคยอดเยี่ยม ( Best Rock Album ) ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ( Best New Artist ) และ การแสดงดนตรีฮาร์ดร็อคยอดเยี่ยม ( Best Hard Rock Performance ) และคว้า รางวัลสาขาการแสดงดนตรีฮาร์ดร็อคยอดเยี่ยม ( Best Hard Rock Performance ) ประจำปี 254 4 อีกทั้งยังสร้าง สถิติยอดจำหน่ายสูงสุดแห่งปี 2543 ต่อมา พ.ศ. 254 5 ไฮบริด ธีโอรี่[Hybrid Theory] ทำสถิติยอดจำหน่ายแพล็ทตินั่มกว่า 8 ล้านแผ่น และ สร้างยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 5 ประจำปี 2545 อีกด้วย

กรกฎาคม พ.ศ. 2545 ออกผลงานรีมิกซ์ชุดต่อมา รีอะนิเมชั่น (Reanimation) และใช้เวลานานถึง 18 เดือน ในการเขียนและบันทึกผลงานเต็มชุดที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จภายใต้ชื่อ เมทีโอร่า (Meteora) ที่โปรดิวซ์โดย ดอน กิลมัวร์ (Don Gilmore) มิกซ์เสียงโดย แอนดี้ วอลเลซ (Andy Wallace) ผู้เคยฝากผลงานไว้กับ แอท เดอะ ไดรฟ์ อิน (At The Drive-In) , ดิสเทิร์บท์ (Disturbed), ฟู ไฟเตอร์ (Foo Fighters), คอร์น (Korn), ลิมพ์ บิซคิท (Limp Bizkit), เนอวาน่า (Nirvana), เรจ อเกนสท์ เดอะ แมชชีน ( Rage Against The Machine ) และ ซิสเต็ม ออฟ ดาวน์ (System Of A Down)

ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) ยอมรับว่า ได้รับอิทธิพลดนตรีมาจาก เดฟโทนส์ (Deftones), ไนน์ อินช์ เนลส์ (Nine Inch Nails), เอเฟ็กซ์ ทวิน (Aphex Twin) และ เดอะ รูทส์ (The Roots) ปัจจุบันนี้ ลินคิน พาร์ค (Linkin Park) คือหนึ่งในวงดนตรีซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงทั่วโลก และมีความเป็นกันเองกับแฟนเพลงอย่างสุดๆจนเป็นที่รู้กันว่าเปิดการแสดงที่ไหนเป็นต้องแจกลายเซ็นเป็นร้อยๆ ที่นั่น !!


สมาชิกวง likin park



ชื่อ: Chester Charles Bennington











ชื่อ: Michael Kenji Shinoda




ชื่อ: Joseph Hahn




ชื่อ: Robert Gregory Bourdon










ชื่อ : David Michael Farrell

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

น้ำตก

น้ำตกในจังหวัดปราจีนบุรี


น้ำตกตะคร้อ


เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่มากันเป็นครอบครัว สามารถกางเต็นท์ พักแรม แค้มปิ้ง และเล่นน้ำได้ อยู่ห่างจากที่ทำการเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ภายในตัวน้ำตกจะมีสะพานเหล็ก ที่สร้างข้ามระหว่างลำธาร เหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูป การเดินทางไปมาสะดวก



การเดินทาง ไปเที่ยวน้ำตกแถว อ.ประจันตคาม จากอำเภอเมืองปราจีน ตามเส้นทาง 320 จนถึงสี่แยกเนินหอม ที่เป็นวงเวียน ตรงไปจะเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เลี้ยวซ้ายไปนครนายก ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าสู่อำเภอประจันตคาม ระยะทาง ประมาณ 50 กิโลเมตร จะถึงสี่แยกใหญ่ ตรงไปจะเป็นอำเภอกบินทร์บุรี แยกขวาจะเป็นทางแยกเข้าสู่ตัวอำเภอประจันตคาม ให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งจะเป็นเส้นทางเข้าสู่ตัวน้ำตก ตรงทางเข้าด้านขวาจะมีปั๊มน้ำมัน เข้าไปตามเส้นทาง อีก 11 กิโลเมตร จะมีแยกทางซ้ายมือ เข้าสู่น้ำตกธารทิพย์ น้ำตกเหวอีอ่ำ ระยะทางเข้าไปประมาณ 4.5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาอีก 3.9 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวน้ำตกธารทิพย์ ถ้าจะไปน้ำตกเหวอีอ่ำต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง ย้อนกลับมาตรงแยก ก่อนเข้าน้ำตกธารทิพย์ ตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงทางสามแยก ทางซ้ายเข้าน้ำตกส้มป่อย และน้ำตกเหวจักจั่น เข้าไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร ส่วนทางแยกขวามือ จะเข้าสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติขญ. 10ซึ่งเป็นทางเข้าสู่น้ำตกอีกสี่แห่ง คือน้ำตกตะคร้อ น้ำตกสลัดใด น้ำตกตาขนดำ ( ตาขอนดำ ) และน้ำตกฟองสบู่ ( วังสบู่ ) มีรถโดยสารจากตลาดประจันตคาม เป็นรถ 2 แถวสีเขียว ค่าโดยสารคนละ 10 บาท รถจะออกทุกชั่วโมงตั้งแต่เวลา 6.00 น.- 16.00 น. ขากลับจากน้ำตกตะคร้อ จะมีคิวรถตรงสะพาน ก่อนถึงทางเข้าน้ำตก ราคา 10 บาท ส่วนน้ำตกธารทิพย์จะไม่มีรถเข้าถึง สำหรับ น้ำตกส้มป่อยสามารถบอกให้รถเข้าไปส่งได้ จากหนังสือแหล่งท่องเที่ยว ฉบับ แนะนำจังหวัดปราจีนบุรี

วงclash



แคลชCLASHสมาชิก


ชื่อจริง ปรีติ บารมีอนันต์ (แบงค์)









ตำแหน่ง ร้องนำ วันเกิด 20 ต.ค. 2525 ราศี ตุลย์ การศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประสบการณ์ทางดนตรี แต่งเนื้อร้อง / ทำนอง รางวัลที่เคยได้รับ นักร้องนำยอดเยี่ยม และรองชนะเลิศอันดับ 1 Hot Wave Music Awards # 3 ปี 2541


ชื่อจริง ธนะพล ฤกษ์สมผุส (พล)










ตำแหน่ง กีตาร์ วันเกิด 2 ม.ค. 2524 ราศี ธนู การศึกษา คณะคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ทรัมเปต, กีตาร์ รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย


ชื่อจริง ฐาปนา ณ บางช้าง (แฮ็ค)


ตำแหน่ง กีตาร์ วันเกิด 6 พ.ค. 2524 ราศี เมษ การศึกษา คณะศิลปศาสตร์ เอกดนตรีศึกษาสากล สถาบันราชภัฎบ้านสมเด็จ เครื่องดนตรีที่เล่นได้ กลอง, เปียโน, คีย์บอร์ด, กีตาร์ รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย






ชื่อจริง สุกฤษ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม)





ตำแหน่ง เบส วันเกิด ม.ค. 2525 ราศี มังกร การศึกษา คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ดับเบิ้ลเบส, ทรอมโบน, เบส รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย


ชื่อจริง อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์)







ตำแหน่ง กลอง วันเกิด 24 ม.ค. 2525 ราศี มังกร การศึกษา คณะมนุษยศาสตร์สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ทูบา, เปียโน, กลอง รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ ประเทศไทย, รองชนะเลิศอันดับ 1 Hot Wave Music Awards # 3 ปี 2541



ผลงาน

ผลงานอื่น ๆ พรีเซ็นเตอร์โฆษณาน้ำมันเครื่อง แนวเพลง ป๊อปร็อค สังกัด อัพจี
วงดนตรีร็อคหน้าใหม่และมีสไตล์เป็นของตัวเอง รวมตัวกันครั้งแรก ในชื่อวง LUCIFER เพื่อเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 2 และ 3 ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ราชวินิต บางแก้ว พร้อมคว้าหลายรางวัลจากการประกวด
หลังจากนั้น พวกเขามีโอกาสทำอัลบั้มแรกกับสังกัด อัพจี ที่ใช้ชื่อว่า ONE พร้อมเพลง "กอด" เป็นเพลงเปิดตัวของพวกเขา ซึ่งเป็น ฝีมือการแต่ง ทั้งเนื้อร้องและทำนองของ "แบงค์" นักร้องนำ และเรียบเรียงด้วยฝีมือของพวกเขาเองทั้งหมด กับเนื้อหาอบอุ่น จริงใจที่มีต่อใครคนหนึ่ง และกลายเป็นเพลงแจ้งเกิดของพวกเขา ในเวลาต่อมา พร้อมรางวัลจาก "สีสัน อะวอร์ดส์" สาขาเพลงร็อคยอดเยี่ยม จากเพลง "Love Scene" ในปี 2545 เป็นเครื่องการันตี
วันนี้ 5 หนุ่มวงแคลช กลับมาอีกครั้งกับความตั้งใจ ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ให้กับวงการดนตรี ด้วยผลงานอันดับที่ 2 "Soundshake" ที่ผ่านการคิดทุกขั้นตอน จากมันสมองของพวกเขา รวมทั้งเรียบเรียงเพลงเอง เพื่อให้ได้ซาวนด์ดนตรีที่มีรายละเอียด ละเมียดละไม บวกกับน้ำสียงและลีลาที่โดดเด่นของ"แบงค์" นักร้องนำ ที่ได้ฝากฝีไม้ลายมือการแต่งเพลงไว้ถึง 7 เพลง
"Soundshake" งานเพลงที่จะมาเขย่าหัวใจคนฟังให้สั่นสะท้าน ด้วยเพลงเปิดตัว "เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป" และเพลง "ขอเช็คน้ำตา" ที่ฮิตติดชาร์ท ฮอตติดหูคนฟังไปทั่ว
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมาย กับอัลบั้ม "SOUNDSHAKE" พวกเขาโด่งดัง โดดเด่น จนได้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาน้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่ง แล้วยังได้คลอดอัลบั้มพิเศษ SOUNDCREAM ออกมาเซอร์ไพร์สแฟนเพลงกันต่อ ด้วยเสียงดนตรีแบบอะคูสติกที่ฟังสบายขึ้น พร้อมเพลงพิเศษ "เธอคือนางฟ้าในใจ" ที่หลายคนไม่น่าพลาด
ปี 2546 ด้วยการจับมือกันของจาก 3 ค่ายเพลงร็อค อย่าง มอร์ มิวสิค,จีนี่ เรคคอร์ดส และอัพจี อัลบั้มพิเศษ Little Rock Project จึงเกิดขึ้น จากการรวมกันเฉพาะกิจ ของ 7 วงร็อครุ่นใหม่มาแรง Clash, ABnormal, Paradox, I-zax, Ultra Chuadz, Zeal และกะลา ที่กลับการปลุกกระแสตำนานเพลงร็อคมือขวา"ไมโคร" โดยนำเอา 25 บทเพลงฮิต มาเรียบเรียงและร้องใหม่ ในสไตล์ของแต่ละวง











ที่มา-http://guitar.kaidown.com/Artist-History/Clash.aspx

วันคริสต์มาส



คริสต์มาส
คือ การฉลองการบังเกิดของพระเยซูที่เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม
คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ
ว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า"
คำว่า "Christes Maesse" พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี 1038
และคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ในภาษาไทย "คริสต์มาส" ก็มีความหมาย
เช่นกัน คำว่า "มาส" แปลว่า "เดือน"
เทศกาลคริสต์มาสจึง เป็นเดือนที่เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์เจ้าเป็นพิเศษ
คำว่า"มาส" คือ"ดวงจันทร์" ตีความหมายในภาษาไทยคือพระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก
เหมือนดวงจันทร์ เป็นความสว่างในตอนกลางคืน Merry X'mas คำว่า Merry
ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า"สันติสุขและความสงบทางใจ" คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น
ขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ ถือเอาประเพณีของชนในท้องถิ่นนั้น
มาประยุกต์เข้ากับศาสนา โดยจัดให้มีการฉลองเพื่อระลึก ถึงการบังเกิดของพระเยซู
ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศประเพณี นี้
ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษ ที่ 4 และ ค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป

ประวัติ....ซานตาคลอส
วันคริสต์มาสนี้เริ่มตั้งแต่คริสตวรรษที่4 มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ "นิโคลาส "
หรือ "เซนต์นิโคลาส" ท่านเป็นนักบุญ ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเด็กหนุ่ม
ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆราชแห่งแคว้นไมรา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี
ท่านได้กลายเป็นนักบุญอุปถัมถ์ประจำชีวิตเด็ก เด็กในประเทศอังกฤษ จะเรียกคุณตาใจ
ดีว่า "คุณพ่อแห่งวันคริสต์มาส" ( Father Christmas )
เด็กเยอรมันนีเรียกว่า "ญาติแห่งพระคริสต์ " ( Christ Child )
เด็กชาวดัชท์เรียกว่า "ซาน นิโคลาส" หรือ "Sankt Klous"
ในที่สุดกลายเป็น "ซานตาคลอส" ติดปากเด็กๆทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1866 นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส เป็นคนแรกที่วาดภาพของ
ซานตาคลอสขึ้นมาลักษณะเหมือนที่เรา เห็นทุกวันนี้ ลงพิมพ์ในหนังสือ
"Horpers Weekly"เป็นครั้งแรกใบหน้าของซานตาคลอส
เป็นสีแดงอมชมพูเหมือนกลีบกุหลาบ จมูกแดงเหมือนผลเชอรี่สุก
นัยน์ตาสุกใสเป็นประกาย หนวดเคราสีขาวท่าทางใจดี ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียง
ตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์
ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย คือความปิติยินดีชื่นชม
ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง


..ต้นคริสต์มาส..

ในสมัยโบราณหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน
และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า ตั้งแต่ศตวรรษที่11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด
ถึงความหมายของคริสต์มาสและเอาตันไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลางเพื่อประดับฉากแสดงถึง
บาปกำเนิดของอาดัมและเอวาต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่าย
ที่สุดในประเทศเหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี
จนถึงศตวรรษที่15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง
เนื่องจากการแสดงนั้นกลายเป็นการเล่น เหมือน ลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง
และศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่
ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของ ตน
โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด ที่เขาเคยร่วมสนุกกัน
จากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ลและแขวนแผ่นขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่ง
ก็มีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ
อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
เราจะเห็นได้ว่าวันคริสต์มาสเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระบุตร
ของพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์เป็นพระเจ้า ที่จะอยู่กับเราตลอดไป
เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ เป็นพี่หัวปีที่จะนำมนุษย์ทั้งมวลไปสู่พระบิดาเจ้า
พระองค์เป็นความสำเร็จบริบูรณ์ ตามคำ สัญญาของพระเจ้าที่จะดูแลป้องกัน
รักษาเราผู้เป็นประชากรของพระองค์

เพลง :
Jingle Bell


Dashing through the snow
On a one-horse open sleigh,
Over the fields we go,
Laughing all the way;
Bells on bob-tail ring,
making spirits bright,
What fun it is to ride and sing
A sleighing song tonight
Jingle bells, jingle bells,
jingle all the way!
O what fun it is to ride
In a one-horse open sleigh

A day or two ago,
I thought I'd take a ride,
And soon Miss Fanny Bright
Was seated by my side;
The horse was lean and lank;
Misfortune seemed his lot;
He got into a drifted bank,
And we, we got upsot.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.

A day or two ago,
the story I must tell
I went out on the snow
And on my back I fell;
A gent was riding by
In a one-horse open sleigh,
He laughed as there
I sprawling lie,
But quickly drove away.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.

Now the ground is white
Go it while you're young,
Take the girls tonight
And sing this sleighing song;
Just get a bob-tailed bay
two-forty as his speed
Hitch him to an open sleigh
And crack! you'll take the lead.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กล้วยไม้


กล้วยไม้



นอบิเล่


วันนี้รีบ ๆ ครับ เน็ตอืดมาก ๆ อัพโหลดรูปพึ่งเสร็จ แต่ก็แก้บางอย่างยังไม่ได้ รูปทั้งหมดอัพไป26 รูปแต่โชว์รูปได้ไม่หมด หากต้องการดูรูปให้คลิก จะได้ดูภาพที่ใหญ่ขึ้นนะครับเป็นนอบิเล่ที่ปลูกที่จังหวัดนครราชสีมา พอดีเห็นพี่เฟิร์นโคราชแห่ง ORchidSiamตั้งกระทู้เกี่ยวกับนอบิเล่ ผมเลยเอามาอวดมั่ง….
ยังไงดูรูปไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ หุหุ ๆ ไว้ว่าง ๆจะมาเขียนบทความ
รูปบางอันอยู่ในอีก card หนึ่งยังไม่ลงคอม ไว้จะเอามาให้ดูอีกครับต้นโปรดของผมยังไม่โชว์เลย เจ้าตาดำ ต้นสวย ๆ จากภูเรือ
บอกไว้ก่อนว่า นอบิเล่ ไม่ต้องเลี้ยงบนดอยแต่อย่างใด โคราชร้อนยังออกดอกได้พี่เฟิร์นอยู่ในตัวเมืองก็ออกดอก ผมอยู่บ้านนอกติดเขตบุรีรัมย์ก็ออกดอก หุหุลองหามาเลี้ยงดูนะครับ เลี้ยงง่ายตายยากครับ…
หากต้องการดูภาพใหญ่ทีละภาพ ให้คลิกที่คำว่า “View with PicLens”แล้วเลื่อนดูทีละภาพนะครับ หรือจะคลิกดูทีละภาพก็ได้ครับ


แกรมมาโต





สำหรับหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินว่า… การเลี้ยงแกรมมาโตนั้นเลี้ยงยาก ต้องตัดใจงดน้ำในช่วงเดือน ธันวาคมเพื่อให้มันเกิดสภาวะใกล้ตายและออกดอกในช่วงต้นเดือน มกราคม (บางพื้นที่ออกดอกไม่พร้อมกันนะครับ อย่างเช่น โคราชนี่ออกดอกเดือนกุมภาพันธุ์ครับ) แต่วันนี้ผมเลย

มาขอแนะเทคนิคสั้น ๆ ได้ใจความเกี่ยวกับเทคนิคการปลูกเลี้ยงแกรมมาโตให้ได้ดอกสำหรับมือใหม่นะครับ ผมคงมิกล้าสอนมือโปร เพราะว่ามือใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ผมจึงสร้างเว็บไซต์กล้วยไม้แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งปันความรู้สำหรับมือใหม่กล้วยไม้…เทคนิคการปลูกเลี้ยงแกรมมาโตให้มีดอก ?ต้องปรับสภาพแวดล้อม ดังนี้1. สภาพโรงเรือนที่โปร่ง แขวนให้รากอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อย 1 เมตร แต่หากวางปลูกบนขอนไม้ ก็ให้เค้าอยู่ในบริเวณที่ไม่อับชื้น2. แสงแดดที่เหมาะสม คือผมลองแขวนไว้โดยโดนแดด 100% ใบเค้าก็ยังโอเค แสดงว่าเค้าชอบแสงมากเพราะฉะนั้นแสลนที่ใช้ในการพรางแสงเค้า อยู่อยู่ที่ 40% (แสงผ่านได้ 60%)3. ในระยะที่เป็นต้นเล็ก เครื่องปลูกที่ใช้คือ กาบมะพร้าวมัดตุ้ม แต่หากรากปกคลุมกระถางหมดแล้ว ก็ได้เวลาที่จะขยายขนาดของกระถาง(จะรอให้ต้นโตจนคับกระถางก่อนก็ได้)4. การขยายขนาดกระถาง ไม่ต้องถอดกระถางเก่าออก ให้ซ้อนกระถางใบที่ใหญ่กว่าเข้าไปเลย กระถางควรใช้เป็นกระถางพลาสติกเพราะเน้าหนักจะเบา ?หากใช้กระถางดินเผา(ดีที่มันชื้นและเย็น)มันจะหนักมาก หากโดนน้ำฝนในฤดูฝน ลวดอาจไม่สามารถรับน้ำหนักได้เครื่องปลูกที่ใช้ อาจเป็นก้อนถ่านก้อนใหญ่ ๆ เพื่อให้ต้นแกรมมาโตทรงตัวได้เท่านั้น ไม่ควรใส่มากเกินไปเพราะอีกไม่นานรากของแกรมมาโต ก็จะปกคลุมกระถางใบใหม่เหมือนเดิม5. การใส่ปุ๋ย นิยมใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ อาจจะเป็นออสโมโคส ปุ๋ยเม็ดละลายช้า ใส่ไว้สองเดือนใส่ทีหนึ่ง หรืออาจจะเป็นปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำที่ต้องฉีดพ่นทุกสัปดาห์ ?ในช่วงเดือน พ.ย. ให้เริ่มใส่ปุ๋ยเร่งดอก(กลางสูง) สลับกับปุ๋ยสูตรเสมอ ?พอออกดอกแล้วให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอสลับปุ๋ยสูตรหลังสูง6. การรดน้ำ ผมเน้นรดทุกวันครับ ไม่เคยงดน้ำเลย เว้นแต่ว่าวันนั้นฝนตก หรือเค้าปลูกยังอุ้มน้ำอยู่มาก (กอกล้วยไม้แกรมมาโตยิ่งใหญ่เท่าใดยิ่งมีความชื้นและน้ำอยู่มาก) ?หากเป็นหน้าฝน แทบจะไม่ต้องรดน้ำเลย(เพราะฝนตกทุกวัน หุหุ) ในช่วงออกดอก ไม่ต้องงดน้ำ เพราะลำต้นจะโทรมและเหี่ยว ?จงจำไว้ว่า แกรมมาโตไม่จำเป็นต้องงดน้ำเพื่อให้ออกดอก ที่กล้ายืนยันเพราะผมเลี้ยงเค้าให้ออกดอกมาแล้วสองปี โดยไม่ต้องงดน้ำ7. ยากันรา ?ยากันเชื้อราที่นิยมใช้กับแกรมมาโต ?ก็คือ เมธาแลคซิล เพราะเป็นยากันยาชนิดกันเน่า ?ส่วนโรคอื่น ๆ เช่น ใบจุด ปื้นเหลือง พบไม่บ่อยนักและใช้สลับกับ ยากันราชื่อ ออโธไซต์ (นิยมใช้กับกล้วยไม้ทุกชนิด) ขอโทษทีครับผมจำชื่อสามัญไม่ได้ เรียกยี่ห้อ ออโธไซต์ คงไม่ว่ากันนะ หุหุ8. ยากันแมลง ?เท่าที่เคยเลี้ยงมา แกรรมาโตไม่เคยถูกรุกรานจากแมลง แต่เพื่อป้องกันความเสียหาย ควรใช้ยากันแมลงประเภท ดูดซึม กัดกินตาย เช่นแลนเนท ?สลับกับสูตรเคลือบผิว คือไล่แมลง ?จำยี่ห้อไม่ได้ 5 5 5 เออ S85 จำได้ล่ะ หุหุ ความจำสั้นแต่รักฉันยาว…
ปัจจัยที่ทำให้แกรรมาโตออกดอก1. ขนาดของต้นแกรมมาโต ?คือ ขนาดจะให้ดี ลำต้นเค้าต้องอวบใหญ่ เท่ากับเส้นรอบวงของถ้วยกาแฟเช่น ปีนี้ลำต้นเค้าโตได้ที่แล้ว ปีหน้าเราจะมีเฮแน่นอนคับ แกรมมาโตเราจะออกดอกแล้ว2. อายุของแกรมมาโต ?โดยส่วนใหญ่ หากเราเลี้ยงจากไม้ขวด ไม้นิ้ว อาจจะต้องรอถึง 3-5 ปี แต่ผมว่ามือใหม่อย่างเราเลี้ยงแบบต้นที่อยู่ในกระถาง 3.5 นิ้ว เลยดีกว่า รอประมาณ 2 ปีก็ได้ดูดอกแล้วครับ ราคาก็ไม่แพงเท่าต้นที่ออกดอกแล้วครับเท่าที่เคยสอบถามราคาจากตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ ที่โคกกรวด ราคาขายปลีกตกอยู่ที่ 50-70 บาทต่อกระถางครับ3. เน้นย้ำครับว่า การงดน้ำไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้แกรรมโตออกดอก (หากขัดกับทฤฎีของเซียนท่านใด หนูมดเอ็กซ์ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ)
อ่าน ๆ แล้วงง ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เน้นให้ทราบว่า แกรมมาโต เป็นกล้วยไม้ปี หรือออกดอกปีละ 1 ครั้งให้ดอกเมื่อต้นโตได้ขนาด ต้องอดใจรอ อย่าใจร้อนครับ…